ความสามารถของฐานข้อมูลก็เพิ่มขึ้นมาก จากที่ไม่เคยมีก็มีครบถ้วน เช่น View , Trigger แนวโน้มของ MySQL ในอนาคตจึงน่าจะเข้ามาเป็นคู่แข่งกับ SQL Server ของ Microsoft ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการรองรับธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม
การติดตั้ง MySQL เพื่อใช้งาน ต้องเตรียมอุปกรณ์ดังนี้
MySQL Community Server 5.5.13 (Version ที่เป็น Opensource หรือฟรีนั่นเอง)
http://www.MySQL.com/downloads/MySQL/
เลือก Windows (x86, 32-bit), MSI Installer |
http://www.MySQL.com/downloads/workbench/
เลือก Windows (x86, 32-bit), MSI Installer |
หลังจากนั้นจะมีหน้าต่างการติดตั้งนำทางไปตลอด ผู้เขียนจะแสดงให้ดูอย่างละเอียด
หน้าต่างต้อนรับ ให้ Next ไปได้เลย |
หน้าต่างอธิบายลิขสิทธิ์การใช้งาน ให้ติ๊กถูกที่ I accept the terms in the License Agreement แล้วกด Next |
หน้าต่างให้เลือกประเภทการติดตั้ง ผู้เขียนเลือก Custom เพื่อจะดูค่าว่ามีส่วนที่ต้องกำหนดเพิ่มหรือไม่ |
Location ที่เห็นคือ Path ที่จะติดตั้งโปรแกรมฐานข้อมูล สามารถเปลี่ยนได้เลยโดยกดปุ่ม Brows... ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วกด Next |
หน้าต่างแจ้งว่าทุกอย่างพร้อมที่จะติดตั้งแล้ว ให้กด Install ได้เลย |
จากนั้นหน้าต่างแสดงสถานะการติดตั้งจะเริ่มทำงาน ให้รอสักครู่จนติดตั้งเสร็จ |
ก่อนการติดตั้งจะสำเร็จ จะมีหน้าต่างโฆษณา MySQL Enterprise ที่เป็น version ที่ต้องซื้อ |
ก่อนการติดตั้งจะสำเร็จ จะมีหน้าต่างโฆษณา MySQL Enterprise ที่เป็น version ที่ต้องซื้อ |
หน้าต่างแสดงว่าติดตั้งสำเร็จทุกขั้นตอนแล้ว ส่วนที่มีการติ๊กถูกไว้จะนำเข้าสู้การ Configuration หลังจากกด Finish หากท่านยังไม่ต้องการทำในขั้นตอนการ Config ให้เอาติ๊กถูกออก |
หากเลือกที่จะทำขั้นตอน Configuration จะพบหน้าต่างต้อนรับเข้าสู่การ Config ทันที ให้กด Next ได้เลย |
เลือก Detailed Configuration เพื่อที่จะได้กำหนดค่าที่ต้องการ จากนั้นกด Next |
ในส่วนของการระบุประเภทการทำงานของ MySQL ผู้เขียนเลือกให้เป็น Server Machine จากนั้นกด Next |
- Developer Machine : ใช้ในการทดสอบเพื่อพัฒนาโปรแกรม ซึ่งจะใช้ทรัพยากรในระบบน้อย
- Server Machine : ให้ทำงานเป็น Server เพื่อบริการข้อมูล
- Dedicated MySQL Server Machine : ใช้เป็น Server หลักซึ่งอาจจะใช้งานทั้ง Website หรือ e-mail จะมีการใช้ทรัพยากรของเครื่องมาก
เลือก Multifunctional Database เพื่อให้สามารถใช้งานได้ครอบคลุม จากนั้นกด Next |
- Multifunctional Database : สามารถใช้ความสามารถของทั้ง InnoDB และ MyISAM ได้
- Transactional Database Only : เลือกใช้ความสามารถในการทำงานแบบ Transaction กับ InnoDB
- Non-Transactional Database Only : ไม่ใช้การทำงานแบบ Transaction โดยใช้ MyISAM
หน้าต่างนี้ให้กำหนดที่อยู่ของไฟล์ฐานข้อมูลในเครื่อง ซึ่งผู้เขียนกำหนดไปที่ไดร์ฟ D: จากนั้นกด Next |
หน้าต่างระบุจำนวนที่ยอมให้มีการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ผู้เขียนเลือกเป็น Online Transaction Processing(OLTP) จากนั้นกด Next |
- Decision Support (DSS) / OLAP : มีการเชื่อมต่อในจำนวนไม่มาก ไม่น่าจะเกิน 20 Transaction
- Online Transaction Procession(OLTP) : มีการเชื่อมต่อในขณะเดียวกันจำนวนมาก อาจจะถึง 500 Transaction ในเวลาเดียวกัน ใช้ในการทำ Web Server
- Manual Setting : ระบุจำนวนการเชื่อมต่อเอง
หน้าต่างค่า Port ในการเชื่อมต่อ ผู้เขียนใช้เป็น Default แล้วกด Next ไปเลย |
หน้าต่างกำหนดรูปแบบกลุ่มตัวอักษรที่จะใช้ในฐานข้อมูล ในที่นี้ผู้เขียนกำหนดเองเป็น utf8 เสร็จแล้วกด Next |
- Standard Character Set : ใช้การตั้งค่าเริ่มต้น นั่นคืออักขระภาษาอังกฤษ หรือภาษาในทางทวีปยุโรป
- Best Support For Multilingualism : ใช้อักขระที่รองรับภาษาหลายที่สุด โดยปกติจะเป็น UTF8
- Manual Selected Default Character Set / Collation : กำหนดชุดอักขระเอง
หน้าต่างเลือกรูปแบบการเรียกใช้งานซึ่งสามารถเลือกได้ทั้ง 2 ข้อ โดยผู้เขียนเลือก Install As Windows Service เพียงข้อเดียว |
- Install As Windows Service : ติดตั้งเป็นแบบ Windows Service จะต้องกำหนดค่าให้ทำงาน ปกติจะทำงานตอนเปิดเครื่อง
- Include Bin Deractory in Windows PATH : ให้เรียกใช้งานผ่านคำสั่ง Command Line ได้
หน้าต่างเกี่ยวกับความปลอดภัย ให้ตั้งรหัสผ่านสำหรับ root ตามในภาพ เสร็จแล้วกด Next |
จบขั้นตอนการ Config หน้าต่างนี้จะนำค่าต่างๆที่ได้กำหนดไปแล้วไปดำเนินการ ซึ่งมีอยู่ 4 ขั้นตอน สามารถกด Execute เพื่อเริ่มได้เลย |
รอจนการทำงานทุกขั้นตอนสำเร็จ แล้วกด Finish MySQL ก็พร้อมทำงานแล้ว |
จะพบชื่อ Service ของ MySQL ที่เพิ่มตั้งไป มีสถานะกำลังทำงานอยู่ |
ในตอนต่อไปผู้เขียนจะทำการติดตั้ง และทดสอบการใช้งาน MySQL Workbench 5.2.34 ที่เป็นเครื่องมื่อช่วยให้ทำงานกับ MySQL ได้ง่ายขึ้นครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น